เว็บแทงบอลออนไลน์ที่มาแรงที่สุดในยุคนี้คงหนีไม่พ้น Nigoal 2499 เพราะเรามีเว็บแทงบอลคุณภาพคับแก้วเปิดให้บริการรอคุณอยู่มากมาย มาร่วม แทงบอล fun88 กับเราวันนี้ เรามีโปรโมชั่นส่วนลดค่าน้ำ มีทุกคู่ให้คุณเลือกแทง เพียบ !! ไม่ว่าจะเป็นบอลไทย บอลนอก บอลโลก บอลยูโร เรามีหมด อย่ารอช้า มาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเราเลย
แอดไลน์ LINE : @NIGOAL2499 ติดต่อพูดคุย หรือ รับคำปรึกษากับทีมงานมืออาชีพได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เรามีโปรโมชั่น 50 รับ 100 สำหรับสมาชิกใหม่ด้วยนะ
” ไม่ต้องทำเทิร์นให้เสียเวลา “
ฝาก 50 รับทันที 100 บาท ทันที !
ฝาก 100 รับทันที 150 บาท ทันที !
เงื่อนไขโปรโมชั่น
– ยอดเครดิตถึง 300 แจ้งถอนได้ทันที (สูงสุด 500 บาท)
– ห้ามเติมเงินระหว่างการรับโปร
– เล่นได้ทุกอย่างภายในเว็บ ยกเว้น ( หวย )
– หลังจากทำการถอนแล้วเครดิตจะปรับยอดเป็น ” 0 ”
– ห้ามมีการฝากซ้ำหากท่านร่วมโปร
– เงื่อนไขอาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า
** หมายเหตุ **
– ติดต่อรับโปรโมชั่น คลิกที่นี่
– จำกัด 1 สิทธิ์ ต่อ 1 ยูสเซอร์ เท่านั้น
– โปรโมชั่นสำหรับสามาชิกใหม่ เท่านั้น
– การตัดสินใจของแอดมินถือเป็นที่สุด
เรามีระบบฝาก – ถอน Auto ที่รวดเร็ว และ ดีที่สุด
ระบบฝากถอนของเราเป็นระบบอัตโนมัติที่สมาชิกหลายท่านให้การชื่นชม เพราะระบบของเราใช้งานง่าย เพียงแค่คุณทำรายการฝากเงินเข้ามา ก็สามารถเข้าเล่นได้เลย ด้วยระบบฝาก – ถอนออโต้ ถายใน 10 วินาที โดยที่ไม่ต้องส่งสลิปให้แอดมินให้เสียเวลา
เรามาดู ” ฉายา ” ของแต่ละสโมสรฟุตบอลแห่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษกันบ้างดีกว่า แทงบอล fun88
บ่อยครั้งชื่อ และ ฉายาสโมสรถูกแทนด้วยชื่อของเมือง หรือ ย่านนั้น ๆ แต่ก็มีบางสโมสรที่ใช้ชื่อด้วยที่มาอื่น ๆ
วันนี้ Nigoal 2499 จะพาไปทำความรู้จักฉายา ของแต่ละสโมสรในศึก “ พรีเมียร์ลีก ” ฤดูกาล 2021 – 22 ด้วยชื่อ และ ฉายาที่ถูกตั้งให้ ไปจนถึงทีมที่ตั้งฉายาเองเอาไว้ข่มขวัญคู่แข่ง
สโมสรฟุตบอลเป็นส่วนหนึ่ง ของวัฒนธรรมกีฬาที่บ่งบอกเรื่องราวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ หรือ เมือง ศาสนา การเมือง ไปจนถึงผู้คน
ด้วยความที่ประเทศอังกฤษเป็นต้นกำเนิดกีฬาหลาย ๆ ชนิด รวมถึงฟุตบอล ทำให้ชื่อของสโมสรแต่ละแห่งล้วนอัดแน่น ไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องราว อีกทั้งความสำคัญของชื่อสโมสร ยังใช้ภาษาอังกฤษเป็นมาตราฐานเดียวกันทั้งโลก
หากคุณเป็นแฟนบอลของสโมสรเหล่านี้ มาลองทายกันดูว่าชื่อที่พวกเราเรียก ๆ กันมีที่มาจากอะไรบ้าง ไปลุยกันเลย
1. อาร์เซนอล ( Arsenal )
สโมสรอาร์เซนอลมีฉายาว่า “ เดอะกันเนอร์ส ” หรือ “ ปืนใหญ่ ” ตามโลโก้ของสโมสร ซึ่งอาร์เซนอลแทบจะเป็นเพียงไม่กี่ทีมในอังกฤษ ที่ไม่ได้ตั้งชื่อสโมสรตามชื่อเมืองหรือย่านนั้น ๆ แต่เป็นกลุ่มคนงานของโรงงานผลิตอาวุธ “ รอยัล อาร์เซนอล ( Royal Arsenal ) ” ในย่านวูลิชของกรุงลอนดอน
นอกจากนี้ยังรวมไปถึงสถานีรถไฟใต้ดิน “ อาร์เซนอล สเตชัน ” เป็นสถานีเดียวในอังกฤษ ที่ตั้งชื่อตามสโมสรฟุตบอล โดยเปลี่ยนจากชื่อเก่าคือ สถานีกิลเลสพี โร้ด สเตชัน ( Gillespie road station ) นั่นเอง
2. แอสตัน วิลล่า ( Aston Villa )
แอสตัน วิลล่ามีฉายาหลายชื่อ ไม่ว่าจะเป็น “ เดอะไลออนส์ ” หรือ “ วิลล่า ” ไปจนถึง “ เดอะคลาเรต แอนด์ บลูอาร์มี ( The Claret and Blue Army ) ” แต่แฟนคลับในไทยเรียกกันติดปากว่า “ สิงห์ผงาด ” หรือ “ สิงห์ผยอง ” ไปจนถึง “ วิลล่า ” เช่นเดียวกับชื่อสนามเหย้า
3. เบรนท์ฟอร์ด ( Brentford )
เบรนท์ฟอร์ด มีฉายาว่า “ เดอะ บีส์ ” หรือ “ ผึ้งพิฆาต ” และ “ ผึ้งน้อย ” ในชื่อที่คนไทยคุ้นเคย เบรนท์ฟอร์ดได้กลับขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งในฤดูกาล 2021 – 22 ในรอบ 74 ปี หลังจากล่าสุดตกชั้นไปเมื่อปี 1947 คงต้องมาดูกันว่าผึ้งพิฆาตจะสามารถอาละวาดศึกพรีเมียร์ลีกได้นานแค่ไหน
4. ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ( Brighton & Hove Albion )
ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน มีฉายาว่า “ เดอะซีกัลส์ ” หรือ “ นกนางนวล ” มีที่มาจากตราสโมสร โดยอ้างอิงมาจากเมืองไบรท์ตันเป็นเมืองชายทะเล และ เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่านกนางนวล จึงนำลักษณะท้องถิ่นมาใช้เป็นชื่อเรียกสโมสรเช่นกัน
5. เบิร์นลีย์ ( Burnley )
แต่เดิมเบิร์นลีย์ใช้ชื่อว่า “ เบิร์นลีย์ โรเวอร์ส ” ต่อมาได้ตัดชื่อพยางค์หลังออกเหลือแค่ “ เบิร์นลีย์ ” และ ตามมาด้วยฉายา “ เดอะคลาเร็ตส์ ( The Clarets ) ” ซึ่งแปลเป็นไทยว่า “ เหล้าองุ่น ”
6.เชลซี ( Chelsea )
เชลซีมีฉายาว่า “ เดอะบลูส์ ” แต่คนไทยจะคุ้นเคยในชื่อ “ สิงโตน้ำเงินคราม ” และ “ สิงห์บลู ” เชลซีเปลี่ยนชื่อสโมสรมาแล้วหลายครั้ง แรกสุดใช้ชื่อว่าสโมสร “ ฟูแล่มเอฟซี ” แล้วจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “ เคนชิงตันเอฟซี ” ตามมาด้วย “ สแตมฟอร์ดบริดจ์เอฟซี ” ( ชื่อสนาม ) จนสุดท้ายกลายมาเป็น “ ลอนดอน เอฟซี ” หรือ “ เชลซี ” มาจนถึงทุกวันนี้
7.คริสตัล พาเลซ ( Crystal Palace )
คริสตัล พาเลซมีฉายาว่า “ ดิอีเกิลส์ ” และ “ เดอะ กลาเซียร์ส ” ที่อ้างอิงมาจากตราสโมสรเป็นรูปปราสาท และ มีนกอินทรีอยู่ด้านบน คนไทยจะคุ้นเคยในชื่อ “ ปราสาทเรือนแก้ว ” มากกว่า
8.เอฟเวอร์ตัน ( Everton )
เอฟเวอร์ตันมีฉายาว่า “ เดอะบลูส์ ” และ “ เดอะทอฟฟี ” ที่คนไทยเรียกติดปากว่าสโมสร “ ทอฟฟีสีน้ำเงิน ” ส่วนที่มาของคำว่า ทอฟฟี่นั้นต้องย้อนกลับไปสมัยก่อนที่เอฟเวอร์ตัน ยังเป็นเมืองโรงงานทำทอฟฟี่อยู่ โดยเจ้าของโรงงานนั้นคือมา บูเชล ( Ma Bushell ) ที่เจ้าตัวจะนำลูกอม และ ทอฟฟีต่าง ๆ มาแจกกองเชียร์ก่อนเข้าสนาม จึงทำให้ภาพความน่ารักเหล่านี้กลายมาเป็นฉายาสร้างภาพจำให้สโมสรในที่สุด
9.ลีดส์ ยูไนเต็ด ( Leed United )
ลีดส์ ยูไนเต็ดมีฉายาว่า “ เดอะ ไวท์ส ” และ “ เดอะ พีค็อกส์ ” หรือ “ ยูงทอง ” ที่คนไทยคุ้นเคย ลีดส์ ยูไนเต็ดเป็นหนึ่งในทีมที่กลับขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกได้อีกครั้งในรอบ 16 ปี คำถามที่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าฉายา “ ยูงทอง ” หรือ นกยูงมาจากไหน ทั้ง ๆ ที่ตราประจำเมืองลีดส์เป็นรูปนกฮูกเสียด้วยซ้ำ
คำตอบคือ ในช่วงปี 80s สโมสรลีดส์ ยูไนเต็ด ได้ปรับเปลี่ยนตราสโมสรจากเดิมที่เคยเป็นรูปวงกลมมาเป็นรำแพนหางของนกยูง ก่อนที่จะใส่ตัวนกยูงเข้าไปเสียเลย จึงมาพร้อมฉายา “ ยูงทอง ” ที่คนไทยเรียกกันติดปาก ถึงแม้ว่าภายหลังลีดส์ ยูไนเต็ดจะเปลี่ยนโลโก้ เป็นสัญลักษณ์ของแคว้นยอร์คเชียร์ คือ ดอกกุหลาบขาวแห่งยอร์คแล้วก็ตาม แต่ชื่อของ “ ยูงทอง ” ก็ยังติดปากคนไทยมาตั้งแต่นั้น
10.เลสเตอร์ ซิตี้ ( Leicester City )
เลสเตอร์ ซิตี้มีฉายาว่า “ เดอะฟ็อกซ์ ” หรือ “ จิ้งจอกสีน้ำเงิน ” ในภาษาไทย หลังจากคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา เข้าไปเทกโอเวอร์สโมสร คนไทยจึงเปลี่ยนมาเรียกเป็น “ จิ้งจอกสยาม ” ที่สามารถกอบโกยถ้วยแชมป์มาได้หมาด ๆ ฉายาจิ้งจอกนี้ก็มีที่มาจากในอดีตเมืองเลสเตอร์เป็นเมืองที่นิยมล่าจิ้งจอก จนถึงขนาดกลายเป็นประเพณีประจำเมือง ที่จะมีขึ้นปีละครั้งเลยทีเดียว
11.ลิเวอร์พูล ( Liverpool )
แม้คนไทยจะเรียกกันติดปากว่า “ หงส์แดง ” แต่จริง ๆ แล้วลิเวอร์พูลมีฉายาว่า “ เดอะเรดส์ ” ทั้งนี้แม้คนไทยจะเรียกว่าหงส์แดง แต่นกที่อยู่บนตราสโมสรเองก็ไม่ใช่หงส์ แต่คือนกลิเวอร์เบิร์ด ( Liver Bird ) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองลิเวอร์พูล ที่เป็นเมืองอุตสาหกรรม และ เมืองท่ามาก่อนด้วย
12.แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ( Manchester City )
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีฉายาหลากหลายไม่แพ้กัน ตั้งแต่ “ ซิตี้ ” , “ ซิตีเซนส์ “ หรือ “ เดอะ สกาย บลูส์ ” แต่ชื่อเหล่านี้ไม่คุ้นหูเท่า “ เรือใบสีฟ้า ” ที่คนไทยเรียกกันตามโลโก้สโมสร เนื่องจากแมนเชสเตอร์เป็นเมืองท่าเช่นเดียวกันกับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงใช้สีในการแยกระหว่างทั้งสองทีมแทน
13.แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ( Manchester United )
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้ชื่อฉายาว่า “ เดอะ เรด เดวิลส์ ” ที่คนไทยเรียกติดปากว่า “ ปีศาจแดง ” หรือ “ ผีแดง ” เป็นฉายาที่ถูกแต่งตั้งมาข่มขวัญทีมคู่แข่งโดย เซอร์ แมตต์ บัสบี้ (Matt Busby) ในปี 1973 จึงนำสัญลักษณ์ของปีศาจถือตรีศูล มาปรากฏอยู่โลโก้สโมสรนับแต่นั้นเป็นต้นมา แต่สิ่งหนึ่งที่แฟน ๆ อาจลืมไปคือแมนเชสเตอร์เป็นเมืองท่า เช่นเดียวกับทีมคู่อริอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จึงมีสัญลักษณ์ของเรือใบปรากฏอยู่ตราสโมสรด้วยเช่นกัน
14.นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ( Newcastle United )
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ใช้ฉายาว่า “ เดอะแม็กพายส์ ( The Magpies ) ” และ “ เดอะทูน ” แต่คนไทยเรียกกันว่า “ สาลิกาดง ” ซึ่งเป็นชื่อพันธุ์ของนกในภาษาไทยนั้นเอง นกแม็กพายส์ หรือ นกสาลิปากดำพบได้ทั้งในทวีปยุโรป แอฟริกา และ เอเชีย มีสีขาวดำเช่นเดียวกับสีเสื้อของเหล่าสาลิกาดงนั่นเอง
15.นอริช ซิตี้ ( Norwich City )
นอริช ซิตี้ ใช้ฉายาว่า “ เดอะคานารีส์ ” และ “ เยลโลว์ส ” ซึ่งรู้จักกันในชื่อเรียกว่า “ นกขมิ้นเหลืองอ่อน ” ที่อ้างอิงมาจากพันธ์ุนก และ สีเหลืองของตราสโมสรโดยตรง
16.เซาแธมป์ตัน ( Southampton )
เซาแธมป์ตัน มีฉายาว่า “ เดอะเซนต์ส ” หรือ “ นักบุญ ” ในภาษาไทย ซึ่งนักบุญที่ว่านี้มาจากเซาแธมป์ตันเป็นทีมของคริสตจักรที่ ก่อตั้งโบสถ์เซนต์แมรีนั่นเอง จึงนำชื่อเหล่านั้นมาตั้งเป็นฉายาสโมสรจนถึงทุกวันนี้
17.ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ( Tottenham Hotspur )
ทอตแนม ฮอตสเปอร์ มีฉายาว่า “ เดอะ ลิลลีไวทส์ ” แต่ในไทยเราเรียก “ ไก่เดือยทอง ” ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉายาดั้งเดิมเลย แต่อ้างอิงมาจากนามสกุลของผู้ก่อตั้งสโมสร คือ แฮร์รี เพอร์ซี ฮอตสเปอร์ ( Harry Percy Hotspur ) และ ชื่อสโมสรเดิมอย่าง “ ฮอตสเปอร์ เอฟซี ” ซึ่งมาเปลี่ยนเป็น ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ในปี 1949 พร้อมด้วยการใส่ตราสัญลักษณ์รูปไก่ตัวผู้ ที่มีเดือยกำลังเหยียบลูกบอลเข้าไปด้วย จนกลายเป็นฉายาสุดแปลก แต่ก็ีเท่ไปอีกแบบ
18.วัตฟอร์ด ( Watford )
วัตฟอร์ด กลับมาสู่พรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง พร้อมทั้งพาฉายา “ เดอะฮอร์เนตส์ ” หรือ ที่คนไทยเรียกติดปากกันว่า “ แตนอาละวาด ” แต่ดันสวนทางกับตราสโมสรที่ เป็นรูปกวางเอาดื้อ ๆ เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่ารูปกวางเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองเฮิร์ตฟอร์ดเชียร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสโมสรวัตฟอร์ด ส่วนฉายาแตนอาละวาดนั้นมาจากสีเสื้อเหลือง และ ดำที่ดันไปคล้ายคลึงกับสีของแตนนั่นเอง
19.เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ( Westham United )
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ใช้ฉายาว่า “ เดอะแฮมเมอร์ส ” ซึ่งเป็นที่มาให้คนไทยเรียกกันว่า “ ขุนค้อน ” ซึ่งอ้างอิงมาจากตราสโมสรเป็นรูปปราสาท และ ค้อน ซึ่งภาพแทนของอุตสาหกรรมต่อเรือที่เฟืองฟูในยุค 70s – 80s โดยในปี 1895 เวสต์แฮมที่ประกอบด้วยคนงานอู่ต่อเรือจากบริษัท Thames Ironworks จึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งฉายาให้กับเหล่าขุนค้อนว่า “ ดิไอรอนส์ ”
20.วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ( Wolverhampton Wanderers )
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ใช้ฉายาว่า “ วูล์ฟ ” และ “ เดอะ วันเดอร์เรอร์ส ” หรือที่คนไทยเรียกกันว่า “ หมาป่า ” เช่นเดียวกับตราสโมสรที่เป็น รูปหมาป่าล้อมกรอบสีเหลืองดำนั่นเอง
กดปุ่มนี้หากต้องการกลับขึ้นไปด้านบน เพื่อสมัครสมาชิก